เบนจิ Rush Sassy Club 2018 มีความรู้สึกว่าผ้าปูที่นอนของเธอนั้นเริ่มจะผ่านการใช้งานมานานไปหน่อย ในเช้าวันนี้เธอก็เลยมีภารกิจอันยิ่งใหญ่คือการซักผ้าปูที่นอนของเธอนี่เอง แต่มันมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นนิดหน่อย ก็คือการที่ไอ้เจ้าเครื่องซักผ้าของเธอดันมาเสียซะนี่ เอาน่ะ ซักมือไปก่อนล่ะกัน ลุย!
เปิดวาร์ปคลิปเด็ดสาว RUSH คลิก
โอฮาโยะ เพื่อนๆ ทุกคนนะคะ เมื่อคืนเบนจิถอดผ้าปูมาเตรียมที่จะซักไว้ค่ะ แล้วเช้านี้ก็พร้อมมากซะด้วยที่จะลงมือจัดการกับมัน แต่เหมือนเจ้ากรรมนายเวรจะตามมาเอาเรื่อง เครื่องซักผ้าเสียซะงั้น ไม่เป็นไรค่ะ สาวแกร่งแรงสตรองแบบเราซักมือก็ได้ค่ะ ซึ่งการซักผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ๆ โดยไม่ใช้เครื่องเนี่ย มันก็ต้องมีกลยุทธกันหน่อยล่ะค่ะ มาค่ะ เดี๋ยวเบนจิบอกเคล็ดลับให้
อันดับแลกเลยนะคะ ควรเลือกใช้น้ำเย็นในการซัก ผ้าปูที่นอน โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้สีของผ้าปูที่นอนซีดลง (วิธีการซักแบบนี้เพื่อเป็นการถนอมเนื้อผ้า และสีของผ้าซึ่งควรใช้น้ำที่อุณหภูมิห้อง แต่ถ้าต้องการฆ่าเชื้อโรค และไรฝุ่นควรใช้น้ำร้อนที่อุณหภูมิเกิน 60 องศาเซลเซียส)
ใช้ผงซักฟอกประมาณ 1-2 ฝา (ขึ้นอยู่กับปริมาณผ้า) ข้อควรระวังคือไม่ควรใส่ผงซักฟอกมากเกินไป เพราะแทนที่ผ้าจะสะอาดจะกลายเป็นมีผงซักฟอกติดค้างอยู่กับผ้าปูที่นอน เพราะจะใช้เวลานานขึ้นในการล้างให้สะอาดหรืออาจไม่สามารถล้างออกหมด ทำให้มีกลิ่นผงซักฟอกติดค้างอยู่มากเกินไป และอาจทำให้เกิดอาการคันขณะนอนสำหรับคนที่แพ้ผงซักฟอก
คราวนี้ก็ถึงเวลาจัดหนัก หนักแน่ๆ ค่ะ เพราะเราใช้มือล้วนๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ใช้ด้วยนะคะ ข้อควรระวังคือไม่ใส่ผ้าโดยกดลงไปจนแน่น เพราะจะทำให้ผ้าเคลื่อนที่ยากนะคะ ผืนมันใหญ่เวลาเราดึงขึ้นมาขัดมาซักจะลำบาก ตัวผ้ามันอมน้ำค่ะ แล้วมันจะทำให้ผ้าไม่สะอาด ซักสักประมาณ 5-10 นาที ค่ะ แต่เบนจิว่าถ้าถึง 10 นาทีนี่กล้ามมาแน่นอนค่ะ ฉะนั้น 5 นาทีก็น่าจะได้อยู่นะ (มั้งคะ) จัดไปตามระเบียบค่ะ บิดๆ ขยี้ๆ จนกว่าจะพอใจกันค่ะ
หลังจากซักเสร็จแล้ว ย้ายผ้าไปอีกกะละมังนึงเทน้ำผงซักฟอกออก ใส่น้ำสะอาดแล้วเอาผ้าปูกลับลงไปแช่น้ำไว้ ส่วนอีกกะละมังก็เตรียมน้ำไว้แล้วใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ค่ะ สัก 2- 3 ฝากำลังดี อันนี้เพราะผ้าปูเตียงเบนจิใหญ่นะคะ เลยใช้เยอะนิดนึง เอาล่ะค่ะ กลับมาซักน้ำเปล่าต่อ เมื่อซักน้ำเปล่าเสร็จแล้ว ยกผ้าขึ้นค่ะ บิดให้หมาดแล้วนำไปแช่ในกะละมังที่เราเตรียมน้ำยาปรับผ้านุ่มไว้ แช่ไว้สัก 15 นาที แล้วยกผ้าขึ้นอีกค่ะ คราวนี้บิดให้แห้งเท่าที่จะแห้งได้นะคะ แล้วนำไปตากในบริเวณที่โล่งอากาศถ่ายเทสะดวก และทางที่ดีควรตากบริเวณที่แดดส่องถึงเพื่อป้องกันกลิ่นอับ และยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยค่ะ
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิตยสาร RUSH ได้ที่
Facebook : facebook.com/RUSHmag
IG : instagram.com/rush_magazine_official/
RUSH VDO : seeme.mthai.com/ch/rush
ติดตามเรื่องราวดีๆ ต่อได้ที่
RUSH#102 March
