Rolex Daytona ราชาแห่งนาฬิกาเจ้าของค่าตัวแพงระดับโลก
Rolex นั้นถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ผู้ชายทั่วโลกหมายปองที่จะได้ครอบครองแต่ถ้าให้บอกชื่อรุ่นที่เป็นสุดยอดของนาฬิกาแบรนด์นี้สาวกคงต้องตอบพร้อมเพรียงกันว่าเป็นรุ่น Daytona อย่างแน่นอนแล้วอะไรล่ะที่ทำให้ Rolex Daytona ถึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกตลอดระยะเวลา 50 กว่าปีที่มันได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้จนกลายเป็นเครื่องบอกเวลาที่มีความต้องการสูงมาต่อเนื่องและยาวนานในวันนี้เราจะไปหาคำตอบพร้อมๆ กันครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับชื่อรุ่นกันก่อน Daytona นั้นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในฟลอริด้าสหรัฐอเมริกาซึ่งมักมีการทดสอบความเร็วของยานพาหนะมาตั้งแต่ปี 1903 อารมณ์เหมือนอุทยานทะเลเกลือ Bonnerville ที่ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บสถิติความเร็วระดับโลกนั่นเองแต่ต่างกับ Daytona ที่เป็นที่ชายหาดทอดยาวสุดลูกหูลูกตาแต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราโดยเมื่อปี คศ. 1959 สนาม Daytona ถูกปรับเปลี่ยนโฉมเป็นสนามแข่งรถที่ใช้แข่งขันแบบมาตรฐานในชื่อ Daytona International Speedway โดย William 'Bill' France Sr. ประธานและผู้ก่อตั้ง NASCAR ที่โด่งดังนั่นเอง
ส่วน Rolex มาเกี่ยวข้องกับสนามแห่งนี้เมื่อปี 1962 ซึ่ง Rolex เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ของรายการแข่งขัน Daytona Continental และปีถัดมา Rolex เจ้าเก่าก็ยังคงเป็นผู้สนับสนุนเหมือนเดิมส่วนที่เพิ่มเติมคือนาฬิการุ่น Cosmograph Daytona ที่สร้างมาเพื่อสำหรับผู้ชนะในรายการนี้โดยเฉพาะและเป็นการให้เกียรติสนาม Daytona อีกด้วยและนี่คือต้นกำเนิดของตำนานนาฬิกาสปอร์ตของโลก Rolex Daytona
ถ้าพูดถึงบุคคลที่ใช้นาฬิการุ่นนี้และโด่งดังที่สุดและเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้คงหนีไม่พ้น Paul Newman ซุปเปอร์สตาร์รุ่นเก๋าที่สวมใส่ Rolex Cosmograph Daytona ในภาพยนตร์เรื่อง "Winning" ในปีคศ. 1969 จนกลายเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบางคนถึงกับเรียกเรียกนาฬิการุ่นนี้ว่า 'Paul Newman' เลยทีเดียวโดย
สิ่งที่ตอกย้ำความอมตะของนาฬิการุ่นนี้เห็นได้จากเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา Christie's สถาบันการประมูลระดับโลกแห่งกรุง Geneva ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ได้เปิดประมูล Rolex Daytona Lot Sale 4002 จำนวนทั้งหมด 50 เรือน ในชื่องานสุดยาวเหยียด Rolex Daytona "LESSON ONE" 50 Exceptional Example of the world's most Celebrated Chronograph Wristwatch ถือว่าเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปีของโมเดลนี้ด้วย โดยตามคาด มูลค่าการประมูลทั้ง 50 เรือนออกมาที่ 13,248,167 ดอลลาร์หรือประมาณ 463 ล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ถึง 4 เท่า เฉลี่ยแล้วตกเรือนละ 8 ล้านกว่าบาท!
ก่อนจากกันขอปิดท้ายกันด้วยเรื่องของตัวเลขที่เชื่อว่าหลายๆ คนต้องสนใจ Rolex Daytona ที่มีราคาแพงที่สุดคือ Daytona Paul Newman model หน้าดำวงขาว ผลิตปี 1969 Ref.6263/6239 พร้อมกล่องและใบ Guarantee มีจำนวนไม่ถึง 20 เรือนทั่วโลก ราคาสิ้นสุดการประมูลอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 36 ล้านบาททั้งๆ ที่ราคาประเมินก่อนประมูลเพียงแค่ 14 ล้านบาท ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 1969 ราคาตอนนี้อยู่เพียง 175 ดอลลาร์หรือประมาณ 6 พันกว่าบาทเท่านั้น! ถ้าตอนนี้เรามีไทม์แมชชีนคงไม่ต้องบอกนะว่าจะไปย้อนเวลากลับไปทำอะไร