"วัสดุหลักที่มาใช้เป็น เครื่องยนต์เก่า มิเตอร์น้ำ เกจวัดความดัน ! "
จากเศษเหล็กที่หลายคนมองว่าเป็นขยะไร้ค่า แต่เมื่อมาอยู่ในมือของผู้ชายคนนี้แล้วมันจะกลายเป็นโคมไฟสุดเท่ในพริบตา เรากำลังอยู่กับ พี่โหน่ง นิพนต์ เนตรสว่าง ชายผู้ที่สร้างสรรค์ผลงานจากพลังกายและพลังสมองอย่างเต็มที่จนเป็นที่มาของ 'โคมไฟสไตล์ลอฟท์' อันลือลั่น
เดิมทีพี่โหน่งเป็นพ่อค้าขายของเก่าที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปีเริ่มมาตั้งแต่สมัยสนามหลวง คลองถม จนมาถึงวัดสวนแก้วในปัจจุบันและจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากลูกค้าประจำมาซื้อเศษเหล็กแล้วเอาไปจ้างช่างทำเป็นโคมไฟและเฟอร์นิเจอร์อีกทีแต่ด้วยค่าจ้างที่แพงทำให้คุณโหน่งเสนอตัวที่จะทำให้เลยได้ทำยาวจนมาถึงทุกวันนี้เป็นเวลา 2 ปีเข้าไปแล้วสร้างงานแนวนี้มากว่า 100 ชิ้น
โฉมหน้าพี่โหน่งเจ้าของผลงานโคมไฟสุดแนว
ส่วนวัสดุที่มาใช้ทำเรียกว่าแทบทุกอย่างที่เป็นโลหะอาทิเช่น เครื่องยนต์เก่า มิเตอร์น้ำ เกจวัดความดัน รวมไปถึงวัสดุที่หายากจากต่างประเทศพี่โหน่งก็จัดมาให้ได้แบบชิลๆ จากคอนเน็คชั่นที่ค้าขายของเก่ามานานจึงทำผลงานของเขาดูแปลกและแตกต่างกว่าที่มีอยู่ในท้องตลาด ขั้นตอนการทำงานนั้นพี่โหน่งบอกว่าแต่ก่อนจะมีโจทย์จากลูกค้ามาให้ว่าอยากได้แบบไหนแต่ตอนนี้สามารถโซโล่เองได้ทุกขั้นตอนเริ่มจากการหาวัสดุ ขั้นตอนการตัดการเชื่อมและการเก็บงานให้เรียบร้อยพร้อมจำหน่าย ส่วนราคาอยู่ที่ความพอใจของตัวคนทำล้วนๆ เริ่มต้นที่ 3,000 บาทจนไปถึงหลักหมื่นแต่บอกเลยว่า ณ ตอนนี้ทำไม่ทันเพราะออเดอร์เข้ามาทีเดียวหลักสิบชิ้น ถ้าอยากได้ต้องนับวันรอไป 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
ถ้าพูดถึงจุดขายพี่โหน่งบอกว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาทุกชิ้นต้องใช้งานได้จริงไม่ใช่แค่วางตั้งโชว์ให้เกะกะพื้นที่ใช้สอยนั่นคือคอนเซ็ปต์หลักในงานทุกชิ้นของเขา ที่สำคัญพี่โหน่งยังบอกอีกว่าในอนาคตอยากเผยแพร่ความรู้ในการประดิษฐ์สิ่งเหล่านี้ให้ผู้ที่สนใจได้ลองทำดูเพื่อใช้งานเองหรือทำเป็นอาชีพ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า 'สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสิ่งที่รักและจะทำไปจนกว่าจะตาย'
ชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากฟอสซิลโบราณ
วัตถุดิบหลักที่หลายคนมองว่าเป็น "ขยะ"
ใช้วัสดุแปลกตาแต่น่าสนใจ
ห้องทำงานที่เต็มไปด้วยเศษเหล็กกองพะเนิน
เห็นแล้วอยากซื้อไปตั้งโชว์ที่บ้านจริงๆ
ร้านโคมไฟตั้งอยู่ที่ตลาดประตูสมบัติหลังวัดสวนแก้ว
เปิดทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น.
FB : ตลาดประตูสมบัติ:วัดสวนแก้ว
อัพเดทความเคลื่อนไหวของ A'Lure Magazine ได้ที่
Facebook : facebook.com/Alure.Fanclub
Instagram : instagram.com/aluremagazine
VDO : seeme.me/ch/themaster